หลังจากประเทศไทยเริ่มแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนและลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกด้วยการหันมาใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเริ่มไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือมีปริมาณลดน้อยลง จนทำให้ใครหลายคนเกิดข้อสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เราจะพาไปหาคำตอบด้วยการพาไปทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของโรงงานพลังถ่านหินในบทความนี้
โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมีข้อดียังไง
ข้อดีของโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมีอยู่ด้วยกันหลายประการ ได้แก่
1. สามารถใช้ผลิตพลังในปริมาณมาก ๆ ได้
เนื่องจากพลังงานถ่านหินกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่และไม่มีปัญหาเรื่องการขนส่งทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีแหล่งผลิตแน่นอนและปริมาณสำรองเพียงพออีกด้วย
2. ราคาไม่แพงและต้นทุนในการผลิตต่ำมาก ๆ
เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงที่มีอยู่ตามธรรมชาติและไม่สามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็ว มีแต่จะสะสมกันเป็นชั้นหนามากขึ้น นั่นหมายความว่าเราสามารถได้เรื่อย ๆ
3. มีหลายทางเลือก
หลัก ๆ มีให้เลือกมากกว่า 5 ประเภท ได้แก่
- Anthracite คุณสมบัติเนื้อแน่น แข็ง ความชื้นต่ำ มีสีดำเงามันวาว ติดไฟยาก ไม่มีการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยจากการเผาไหม้และมีปริมาณคาร์บอนมากถึงร้อยละ 97% จัดว่าเป็นถ่านหินคุณภาพสูงที่สุดในบรรดาถ่านหินทั้งหมด
- Bituminous คุณสมบัติมีความชื้นต่ำ สีน้ำตาลเข้มถึงดำ ผิวมันวาว เนื้อแน่นและแข็ง มีปริมาณคาร์บอนสูงอันดับสองรองจาก Anthracite ส่วนใหญ่นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้า ซีเมนต์ และกระแสไฟฟ้า
- Sub – Bituminous คุณสมบัติความชื้นต่ำ ผิวด้านมันวาว สีน้ำตาลดำ มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่า Lignite แต่น้อยกว่า Bituminous เหมาะสำหรับการใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก
- Lignite คุณสมบัติเนื้อเหนียว ผิวด้าน สีเข้ม มีความชื้นเล็กน้อย และเหลือองค์ประกอบของซากพืชหลงเหลือภายในถ่านหินอยู่บ้าง รวมถึงมีปริมาณคาร์บอนสูงและเมื่อติดไฟมักเกิดควันและมีเถ้าถ่านปริมาณมาก เหมาะสำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อน
- Peat คุณสมบัติค่อนข้างร่วน ความชื้นสูง สามารถมองเห็นรูปร่างของซากพืชได้อย่างชัดเจน ก่อนจะนำไปใช้จำเป็นต้องผ่านกระบวนการกำจัดความชื้น ส่วนใหญ่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ความร้อนภายในครัวเรือน
4. ไม่จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยทางสภาพอากาศเหมือนกับพลังงานทดแทนอื่น ๆ
ไม่ว่าจะเป็นลม คลื่น แสงอาทิตย์ หรือน้ำ
ข้อเสีย
แม้ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจะมีข้อดีอยู่ด้วยกันหลายประการแต่ก็มีข้อเสียที่ต้องทำความเข้าใจเช่นกัน ได้แก่
- ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสารพิษที่ปนเปื้อนทั้งในพื้นดิน อากาศ และแหล่งน้ำ โดยเฉพาะปรอทและซัลเฟอร์ไดออกไซด์
- เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนในชุมชนแบบเรื้อรัง
- เชื้อเพลิงที่ใช้ไปแล้วไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
- การขุดเจาะพื้นผิวโลกเพื่อนำถ่านหินมาใช้อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์อย่างถาวร และมีผลต่อการทำลายระบบนิเวศบริเวณใกล้เคียงไปอย่างสิ้นเชิง
- เพิ่มโอกาสในการเกิดน้ำท่วมและภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่น ๆ
สรุปได้ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมีทั้งข้อดีและข้อเสียแต่หากจะให้เปรียบเทียบกันจะเห็นได้ว่าข้อเสียมากกว่าข้อดีไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการปล่อยสารพิษหรือก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปริมาณการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจึงมีน้อยลงและมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดมากขึ้นแทน